messager
 
องค์การบริหารส่วนตำบลโคกกลาง
องค์การบริหารส่วนตำบล
โคกกลาง
อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี
ยินดีต้อนรับ เข้าสู่เว็บไซต์ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกกลาง อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี
local_cafe สถานที่ท่องเที่ยว
แหล่งท่องเที่ยว ศาลปู่นาคาย่านาคีรอปรับปรุง
สถานที่ท่องเที่ยว
แหล่งท่องเที่ยว ศาลปู่นาคาย่านาคี

รอปรับปรุง
info_outline วิสัยทัศน์และพันธกิจ
วิสัยทัศน์พันธกิจหน่วยงานรอปรับปรุง
วิสัยทัศน์และพันธกิจ
วิสัยทัศน์พันธกิจหน่วยงาน

รอปรับปรุง
insert_drive_file ข้อมูลหน่วยงาน
ข้อมูลทั่วไปข้อมูลทั่วไป อบต.โคกกลาง แบ่งเขตการปกครองเป็น 13 หมู่บ้าน ประกอบด้วยหมู่บ้าน หมู่ 1 บ้านโคกกลาง,หมู่ 2 บ้านหนองแวง,หมู่ 3 บ้านโคกสง่า,หมู่ 4 บ้านม่วงดง ,หมู่ 5 บ้านโนนน้ำเกลี้ยง ,หมู่ 6 บ้านตาดโตน , หมู่ 7 บ้านคำเต้าแก้ว ,หมู่ 8 บ้านหนองแสง ,หมู่ 9 บ้านหินลาด ,หมู่ 10 บ้านโคกกลาง , หมู่ 11 บ้านแสงแก้ว , หมู่ 12 บ้านหนองม่วง, หมู่ 13 บ้านโคกกลาง จำนวนประชากรใน ตำบลโคกกลาง จำนวนหลังครัวเรือน: 1,883 ครัวเรือน จำนวนประชากร: 7,182 คน
ข้อมูลหน่วยงาน
ข้อมูลทั่วไป

ข้อมูลทั่วไป อบต.โคกกลาง แบ่งเขตการปกครองเป็น 13 หมู่บ้าน ประกอบด้วยหมู่บ้าน หมู่ 1 บ้านโคกกลาง,หมู่ 2 บ้านหนองแวง,หมู่ 3 บ้านโคกสง่า,หมู่ 4 บ้านม่วงดง ,หมู่ 5 บ้านโนนน้ำเกลี้ยง ,หมู่ 6 บ้านตาดโตน , หมู่ 7 บ้านคำเต้าแก้ว ,หมู่ 8 บ้านหนองแสง ,หมู่ 9 บ้านหินลาด ,หมู่ 10 บ้านโคกกลาง , หมู่ 11 บ้านแสงแก้ว , หมู่ 12 บ้านหนองม่วง, หมู่ 13 บ้านโคกกลาง จำนวนประชากรใน ตำบลโคกกลาง จำนวนหลังครัวเรือน: 1,883 ครัวเรือน จำนวนประชากร: 7,182 คน
info ประวัติความเป็นมา
ประวัติความเป็นมาตำบลโคกกลาง อยู่ห่างจากอำเภอโนนสะอาดไปทางทิศใต้ ประมาณ ๓ กิโลเมตร มีพื้นที่ ๖๗.๔๐๖ ตารางกิโลเมตร อาณาเขตตามลักษณะการแบ่งเขตการปกครอง จำนวน ๑๓ หมู่บ้าน บ้านโคกกลาง หมู่ที่ ๑,๑๓ เดิมพื้นที่บริเวณแห่งนี้มีภูมิประเทศเป็นที่เนิน (โนน) มีป่าทึบและมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีพ่อตา ดงบัว, พ่อจารย์ซุย โพธิจารย์, พ่อสนและพวกประมาณ ๑๐ ครัวเรือน อพยพมาจากอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มาตั้งถิ่นฐานประกอบอาชีพบริเวณนี้และเรียกชื่อบ้านว่า “บ้านน้ำแบ่ง” เพราะที่ตั้งบ้านโคกกลางแห่งนี้เป็นศูนย์กลางลำน้ำ ๒ สายซึ่งไหลมาบรรจบกัน คือ ทิศตะวันออก คือ ลำน้ำปาว ทิศตะวันตก คือ ลำน้ำพอง เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๗ จึงเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านจาก “บ้านกลางโคก” มาเป็น “บ้านโคกกลาง” ขึ้นอยู่ในการปกครองของตำบลปะโค อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ ตำบลโคกกลางได้รับการยกฐานะทางการปกครองจึงได้แยกบ้านโคกกลาง มาอยู่ในการปกครองของตำบลโคกกลาง อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี ปัจจุบันมีนายทองสูนร์ ตัวเสาร์ เป็นกำนันและเมื่อมีราษฎรเพิ่มมากขึ้น จึงจัดตั้งบ้านโคกกลาง หมู่ที่ ๑๐ ออกจาก บ้านโคกกลางหมู่ที่ ๑ เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๓๔ และมีนายบุญหลาย ตัวเสาร์ เป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองแวงใหญ่ หมู่ที่ ๒ เดิมที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นป่าไม้และมีต้นไม้ขนาดใหญ่และมีหนองน้ำที่เต็มไปด้วย “ต้นแวง” ป่าไม้และหนองน้ำแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าน้อยใหญ่ นา ๆ ชนิด ซึ่งต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๖๖ พ่อใหญ่จ้ำจารย์ พร้อมพวกเดินทางมาจากอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มาพบป่าและหนองน้ำแห่งนี้ มีทำเลที่เหมาะสมแก่การก่อตั้งบ้าน จึงได้ปลูกสร้างบ้านเรือนเพื่ออยู่อาศัยประมาณ ๔ - ๕ หลังคาเรือนที่ชายป่าริมน้ำ ซึ่งเป็นหนองน้ำที่กว้างใหญ่ มีต้นแวงเกิดขึ้นตามธรรมชาติชาวบ้านจึงเรียกขานชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านหนองแวงใหญ่” ตามชื่อของต้นแวงและหนองน้ำ โดยมีนายมูลอำมาตร มานะศรี เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๒ ได้แยกบ้านหนองแวงใหญ่ ออกจากบ้านโคกกลาง หมู่ที่ ๑ มีประชากร ๒๓๐ คน แยกเป็นชาย ๑๒๖ คน และหญิง ๑๐๔ คนมีครัวเรือน ๕๐ ครัวเรือน บ้านโคกสง่า หมู่ที่ ๓ บ้านโคกสง่า ตั้งขึ้นเป็นหมู่บ้านเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๖ ซึ่งเริ่มแรกมีนายสาคร นาสินสร้อย เป็นผู้นำในการตั้งขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “บ้านโคกบำสามขา” เพราะทำเลที่ตั้งของหมู่บ้านเป็นบ๋า (ทำเลลาดเอียง) มีน้ำบ่อซึมและฟาร์มเลี้ยงวัว ซึ่งต่อมีผู้คน ได้อพยพมาอาศัยอยู่เพิ่มมากขึ้นกลายเป็นชุมชนหนาแน่น มีผู้นำและสร้างกฎระเบียบในการปกครอง จึงได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านใหม่ว่า ”บ้านโคกสง่า” ตำบลโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๑ โดยเลือกให้นายสาคร นาสินสร้อย เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก ปีพุทธศักราช ๒๕๓๑ ได้เปลี่ยนแปลงเขตการปกครองทางราชการตั้งตำบลขึ้นใหม่ คือตำบลโคกกลาง และเปลี่ยนแปลงให้บ้านโคกสง่ามาอยู่ในเขตการปกครองของตำบลโคกกลาง โดยมีนายเลิศ ลำไธสง เป็นผู้ใหญ่บ้านจนถึงปัจจุบัน บ้านม่วงดง หมู่ที่ ๔ ณ สถานที่ตั้งหมู่บ้านแห่งนี้ สมัยก่อนเป็นป่าไม้เบญจพรรณและป่าดงดิบเป็นบางส่วนซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผัก ที่เป็นอาหารของผู้คน ตลอดทั้งสัตว์ป่านานาชนิด เช่น หมู่ป่า กระรอก กระแต นก ฯลฯ ผู้คนในละแวกนี้ให้สมญานามว่า “ ป่าแสนสุข ” และบริเวณป่าไม้ดังกล่าว มีหนองน้ำ และ ในบริเวณหนองน้ำเต็มไปด้วยต้นมะม่วงป่า (ตามภาษาบาลี เรียกว่า ไม้อัมพวรรณ) ชาวบ้านจึงเรียกรวม คำว่า “ มะม่วงป่า ” กับคำว่า “ดง” ตั้งเป็นเชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านม่วงดง” ส่วนนามของวัดได้นำเอาคำว่าอัมพวรรณ มาตั้งชื่อวัดว่า “ วัดชัยอัมพร ” จนถึงปัจจุบัน ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๗๖ ได้รับการตั้งขึ้นตามกฎหมาย อยู่ในเขตการปกครองของตำบลโพธิ์ศรีสำราญ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี และปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ กระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งให้แยกอำเภอโนนสะอาด ออกจากเขตการปกครองของอำเภอกุมภวาปี จัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอโนนสะอาด โดยบ้านม่วงดงให้ขึ้นอยู่ในเขตการปกครองของกิ่งอำเภอโนนสะอาด และปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ กระทรวงมหาดไทย ได้ตั้งตำบลโคกลางขึ้นมาใหม่ จึงเปลี่ยนแปลงให้บ้านม่วงดง อยู่ในเขตการปกครองของตำบลโคกกลาง อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี บ้านโนนน้ำเกลี้ยง หมู่ที่ ๕ เมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๔๙๘ ได้มีชาวบ้านคำเต้าแก้วย้ายเข้ามาจับจองที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและทำมาหากิน ประมาณ ๔-๕ ครอบครัว ซึ่งต่อมาได้มีผู้คนอพยพมาจากถิ่นอื่นเข้ามาอาศัยอยู่เพิ่มมากขึ้นกลายเป็นชุมชนใหญ่ เพราะที่ตั้งบริเวณหมู่บ้านนี้ มีลักษณะเป็นที่เนิน หรือโนน (หมายถึง ที่สูง) มีต้นไม้ใหญ่เกิดอยู่ในบริเวณที่ตั้งหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “ ต้นน้ำเกลี้ยงใหญ่ ” จึงเห็นชอบให้เรียกขานชื่อหมู่บ้านตามลักษณะโดดเด่นของพื้นที่ว่า “บ้านโนนน้ำเกลี้ยง” และได้รับการจัดตั้งเป็นหมู่บ้านตามกฎหมายการปกครองของทางราชการเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๗ บ้านตาดโตน หมู่ที่ ๖ บ้านตาดโตน เดิมเรียกว่า “ บ้านโตนตาด ” ก่อตั้งเป็นหมู่บ้านเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๖ โดยราษฎรอพยพมาตั้งรกราก จำนวน ๘ ครัวเรือน นำโดยนายศรีอร กองเพชร, นายพรั่ว อันทะปัญญา, นายทองสุข หอมสมบัติ พบว่าบริเวณที่ตั้งของหมู่บ้าน มีน้ำโตนตาดหินที่กำหนดจากธรรมชาติ ต่อมาเมื่อมีผู้คนอพยพเข้ามาอยู่เพิ่มมากขึ้นทางราชการ จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านอย่างเป็นทางการ โดยเปลี่ยนจาก “ บ้านโตนตาด ” มาเป็น “ บ้านตาดโตน ” บ้านคำเต้าแก้ว หมู่ที่ ๗ บ้านคำเต้าแก้ว เดิมเรียกว่า “ บ้านห้วยโจด ” เนื่องจากบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านมีลำห้วยไหลผ่านหมู่บ้าน มีนายพรานคนหนึ่ง เดินทางไปล่าสัตว์และพบบ่อน้ำคำโดยบังเอิญ ซึ่งบ่อน้ำคำเป็นบ่อน้ำที่สะอาด สามารถนำมาบริโภคได้ตลอดปี นายพรานจึงนำเรื่อง ดังกล่าวนี้มาเสนอต่อผู้นำหมู่บ้านว่า การตั้งชื่อหมู่บ้านเราควรมองความสำคัญของบ่อน้ำคำแห่งนี้มาเป็นชื่อเรียกขานนามหมู่บ้าน โดยเปลี่ยนชื่อจากบ้านห้วยโจด มาเป็น “ บ้านคำเต้าแก้ว ” ตราบเท่าทุกวันนี้ บ้านหนองแสง หมู่ที่ ๘ บ้านหนองแสง ตั้งขึ้นโดยชาวบ้านกุดหว้า ตำบลสะอาด อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มีที่นาซี่งอยู่ ณ สถานที่ตั้ง หมู่บ้านหนองแสงในปัจจุบัน แต่เนื่องจากบ้านกุดหว้าเกิดโรคระบาดชาวบ้านล้มตายเป็นจำนวนมากโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ได้เจ็บป่วย ซึ่งในสมัยนั้นเชื่อกันว่า “ ห่าลงบ้าน ” จึงอพยพออกจากบ้านกุดหว้า จึงมาตั้งบ้านใหม่ใกล้กับที่นาของตนเอง จำนวน ๙ ครอบครัว โดยสถานที่ตั้งของหมู่บ้านมีหนองน้ำใหญ่ และรอบ ๆ หนองน้ำจะมีต้นแสงใหญ่เกิดขึ้น ชาวบ้านจึงใช้เป็นชื่อหมู่บ้านว่า “ บ้านหนองแสง ” บ้านหินลาด หมู่ที่ ๙ จัดตั้งขึ้นโดยแยกออกจากบ้านนางิ้ว อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น เมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๔๗๙ อพยพมาตั้งรกรากทำมาหากิน จำนวน ๕ ครอบครัว โดยการนำของนายผง โนนทิง เพราะเห็นว่าบริเวณแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นข้าวในนา ปลาในหนองและรวมไปถึงสัตว์ป่านานาชนิด พื้นที่ตั้งหมู่บ้านเป็นหินลาด (หินขาว) มีอยู่ตามร่องน้ำใกล้ วัดศิลาอาสน์ ชาวบ้านจึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “ บ้านหินลาด ” บนพื้นที่ประมาณ ๑,๐๐๐ ไร่เศษ ต่อมาประมาณปีพุทธศักราช ๒๔๘๕ ทางราชการได้ประกาศตั้งหมู่บ้านขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งเดิมเรียกว่า บ้านหินลาด หมู่ที่ ๙ ขึ้นอยู่ในการปกครองของตำบลปะโค อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี และเมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๕๑๘ บ้านหินลาด ได้แยกออกจากการปกครองของตำบลปะโค ตามลักษณะของการปกครองของทางราชการ มาขึ้นอยู่ในการปกครองของตำบลโคกกลาง บ้านแสงแก้ว หมู่ที่ ๑๐ เดิมเรียกชื่อว่า “ บ้านหนองแสง ” ต่อเมื่อเมื่อบ้านหนองแสงมีประชากรเพิ่มมากขึ้น ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ ทางราชการจึงได้แบ่งเขตการปกครองออกจากบ้านหนองแสง มาตั้งชื่อหมู่บ้านใหม่ตามลักษณะของการปกครอง และตั้งชื่อใหม่ว่า “ บ้านแสงแก้ว ”
ประวัติความเป็นมา
ประวัติความเป็นมา

ตำบลโคกกลาง อยู่ห่างจากอำเภอโนนสะอาดไปทางทิศใต้ ประมาณ ๓ กิโลเมตร มีพื้นที่ ๖๗.๔๐๖ ตารางกิโลเมตร อาณาเขตตามลักษณะการแบ่งเขตการปกครอง จำนวน ๑๓ หมู่บ้าน บ้านโคกกลาง หมู่ที่ ๑,๑๓ เดิมพื้นที่บริเวณแห่งนี้มีภูมิประเทศเป็นที่เนิน (โนน) มีป่าทึบและมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีพ่อตา ดงบัว, พ่อจารย์ซุย โพธิจารย์, พ่อสนและพวกประมาณ ๑๐ ครัวเรือน อพยพมาจากอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มาตั้งถิ่นฐานประกอบอาชีพบริเวณนี้และเรียกชื่อบ้านว่า “บ้านน้ำแบ่ง” เพราะที่ตั้งบ้านโคกกลางแห่งนี้เป็นศูนย์กลางลำน้ำ ๒ สายซึ่งไหลมาบรรจบกัน คือ ทิศตะวันออก คือ ลำน้ำปาว ทิศตะวันตก คือ ลำน้ำพอง เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๗ จึงเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านจาก “บ้านกลางโคก” มาเป็น “บ้านโคกกลาง” ขึ้นอยู่ในการปกครองของตำบลปะโค อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ ตำบลโคกกลางได้รับการยกฐานะทางการปกครองจึงได้แยกบ้านโคกกลาง มาอยู่ในการปกครองของตำบลโคกกลาง อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี ปัจจุบันมีนายทองสูนร์ ตัวเสาร์ เป็นกำนันและเมื่อมีราษฎรเพิ่มมากขึ้น จึงจัดตั้งบ้านโคกกลาง หมู่ที่ ๑๐ ออกจาก บ้านโคกกลางหมู่ที่ ๑ เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๓๔ และมีนายบุญหลาย ตัวเสาร์ เป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองแวงใหญ่ หมู่ที่ ๒ เดิมที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นป่าไม้และมีต้นไม้ขนาดใหญ่และมีหนองน้ำที่เต็มไปด้วย “ต้นแวง” ป่าไม้และหนองน้ำแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าน้อยใหญ่ นา ๆ ชนิด ซึ่งต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๖๖ พ่อใหญ่จ้ำจารย์ พร้อมพวกเดินทางมาจากอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มาพบป่าและหนองน้ำแห่งนี้ มีทำเลที่เหมาะสมแก่การก่อตั้งบ้าน จึงได้ปลูกสร้างบ้านเรือนเพื่ออยู่อาศัยประมาณ ๔ - ๕ หลังคาเรือนที่ชายป่าริมน้ำ ซึ่งเป็นหนองน้ำที่กว้างใหญ่ มีต้นแวงเกิดขึ้นตามธรรมชาติชาวบ้านจึงเรียกขานชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านหนองแวงใหญ่” ตามชื่อของต้นแวงและหนองน้ำ โดยมีนายมูลอำมาตร มานะศรี เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๒ ได้แยกบ้านหนองแวงใหญ่ ออกจากบ้านโคกกลาง หมู่ที่ ๑ มีประชากร ๒๓๐ คน แยกเป็นชาย ๑๒๖ คน และหญิง ๑๐๔ คนมีครัวเรือน ๕๐ ครัวเรือน บ้านโคกสง่า หมู่ที่ ๓ บ้านโคกสง่า ตั้งขึ้นเป็นหมู่บ้านเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๖ ซึ่งเริ่มแรกมีนายสาคร นาสินสร้อย เป็นผู้นำในการตั้งขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “บ้านโคกบำสามขา” เพราะทำเลที่ตั้งของหมู่บ้านเป็นบ๋า (ทำเลลาดเอียง) มีน้ำบ่อซึมและฟาร์มเลี้ยงวัว ซึ่งต่อมีผู้คน ได้อพยพมาอาศัยอยู่เพิ่มมากขึ้นกลายเป็นชุมชนหนาแน่น มีผู้นำและสร้างกฎระเบียบในการปกครอง จึงได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านใหม่ว่า ”บ้านโคกสง่า” ตำบลโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๑ โดยเลือกให้นายสาคร นาสินสร้อย เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก ปีพุทธศักราช ๒๕๓๑ ได้เปลี่ยนแปลงเขตการปกครองทางราชการตั้งตำบลขึ้นใหม่ คือตำบลโคกกลาง และเปลี่ยนแปลงให้บ้านโคกสง่ามาอยู่ในเขตการปกครองของตำบลโคกกลาง โดยมีนายเลิศ ลำไธสง เป็นผู้ใหญ่บ้านจนถึงปัจจุบัน บ้านม่วงดง หมู่ที่ ๔ ณ สถานที่ตั้งหมู่บ้านแห่งนี้ สมัยก่อนเป็นป่าไม้เบญจพรรณและป่าดงดิบเป็นบางส่วนซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผัก ที่เป็นอาหารของผู้คน ตลอดทั้งสัตว์ป่านานาชนิด เช่น หมู่ป่า กระรอก กระแต นก ฯลฯ ผู้คนในละแวกนี้ให้สมญานามว่า “ ป่าแสนสุข ” และบริเวณป่าไม้ดังกล่าว มีหนองน้ำ และ ในบริเวณหนองน้ำเต็มไปด้วยต้นมะม่วงป่า (ตามภาษาบาลี เรียกว่า ไม้อัมพวรรณ) ชาวบ้านจึงเรียกรวม คำว่า “ มะม่วงป่า ” กับคำว่า “ดง” ตั้งเป็นเชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านม่วงดง” ส่วนนามของวัดได้นำเอาคำว่าอัมพวรรณ มาตั้งชื่อวัดว่า “ วัดชัยอัมพร ” จนถึงปัจจุบัน ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๗๖ ได้รับการตั้งขึ้นตามกฎหมาย อยู่ในเขตการปกครองของตำบลโพธิ์ศรีสำราญ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี และปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ กระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งให้แยกอำเภอโนนสะอาด ออกจากเขตการปกครองของอำเภอกุมภวาปี จัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอโนนสะอาด โดยบ้านม่วงดงให้ขึ้นอยู่ในเขตการปกครองของกิ่งอำเภอโนนสะอาด และปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ กระทรวงมหาดไทย ได้ตั้งตำบลโคกลางขึ้นมาใหม่ จึงเปลี่ยนแปลงให้บ้านม่วงดง อยู่ในเขตการปกครองของตำบลโคกกลาง อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี บ้านโนนน้ำเกลี้ยง หมู่ที่ ๕ เมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๔๙๘ ได้มีชาวบ้านคำเต้าแก้วย้ายเข้ามาจับจองที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและทำมาหากิน ประมาณ ๔-๕ ครอบครัว ซึ่งต่อมาได้มีผู้คนอพยพมาจากถิ่นอื่นเข้ามาอาศัยอยู่เพิ่มมากขึ้นกลายเป็นชุมชนใหญ่ เพราะที่ตั้งบริเวณหมู่บ้านนี้ มีลักษณะเป็นที่เนิน หรือโนน (หมายถึง ที่สูง) มีต้นไม้ใหญ่เกิดอยู่ในบริเวณที่ตั้งหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “ ต้นน้ำเกลี้ยงใหญ่ ” จึงเห็นชอบให้เรียกขานชื่อหมู่บ้านตามลักษณะโดดเด่นของพื้นที่ว่า “บ้านโนนน้ำเกลี้ยง” และได้รับการจัดตั้งเป็นหมู่บ้านตามกฎหมายการปกครองของทางราชการเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๗ บ้านตาดโตน หมู่ที่ ๖ บ้านตาดโตน เดิมเรียกว่า “ บ้านโตนตาด ” ก่อตั้งเป็นหมู่บ้านเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๖ โดยราษฎรอพยพมาตั้งรกราก จำนวน ๘ ครัวเรือน นำโดยนายศรีอร กองเพชร, นายพรั่ว อันทะปัญญา, นายทองสุข หอมสมบัติ พบว่าบริเวณที่ตั้งของหมู่บ้าน มีน้ำโตนตาดหินที่กำหนดจากธรรมชาติ ต่อมาเมื่อมีผู้คนอพยพเข้ามาอยู่เพิ่มมากขึ้นทางราชการ จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านอย่างเป็นทางการ โดยเปลี่ยนจาก “ บ้านโตนตาด ” มาเป็น “ บ้านตาดโตน ” บ้านคำเต้าแก้ว หมู่ที่ ๗ บ้านคำเต้าแก้ว เดิมเรียกว่า “ บ้านห้วยโจด ” เนื่องจากบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านมีลำห้วยไหลผ่านหมู่บ้าน มีนายพรานคนหนึ่ง เดินทางไปล่าสัตว์และพบบ่อน้ำคำโดยบังเอิญ ซึ่งบ่อน้ำคำเป็นบ่อน้ำที่สะอาด สามารถนำมาบริโภคได้ตลอดปี นายพรานจึงนำเรื่อง ดังกล่าวนี้มาเสนอต่อผู้นำหมู่บ้านว่า การตั้งชื่อหมู่บ้านเราควรมองความสำคัญของบ่อน้ำคำแห่งนี้มาเป็นชื่อเรียกขานนามหมู่บ้าน โดยเปลี่ยนชื่อจากบ้านห้วยโจด มาเป็น “ บ้านคำเต้าแก้ว ” ตราบเท่าทุกวันนี้ บ้านหนองแสง หมู่ที่ ๘ บ้านหนองแสง ตั้งขึ้นโดยชาวบ้านกุดหว้า ตำบลสะอาด อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มีที่นาซี่งอยู่ ณ สถานที่ตั้ง หมู่บ้านหนองแสงในปัจจุบัน แต่เนื่องจากบ้านกุดหว้าเกิดโรคระบาดชาวบ้านล้มตายเป็นจำนวนมากโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ได้เจ็บป่วย ซึ่งในสมัยนั้นเชื่อกันว่า “ ห่าลงบ้าน ” จึงอพยพออกจากบ้านกุดหว้า จึงมาตั้งบ้านใหม่ใกล้กับที่นาของตนเอง จำนวน ๙ ครอบครัว โดยสถานที่ตั้งของหมู่บ้านมีหนองน้ำใหญ่ และรอบ ๆ หนองน้ำจะมีต้นแสงใหญ่เกิดขึ้น ชาวบ้านจึงใช้เป็นชื่อหมู่บ้านว่า “ บ้านหนองแสง ” บ้านหินลาด หมู่ที่ ๙ จัดตั้งขึ้นโดยแยกออกจากบ้านนางิ้ว อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น เมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๔๗๙ อพยพมาตั้งรกรากทำมาหากิน จำนวน ๕ ครอบครัว โดยการนำของนายผง โนนทิง เพราะเห็นว่าบริเวณแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นข้าวในนา ปลาในหนองและรวมไปถึงสัตว์ป่านานาชนิด พื้นที่ตั้งหมู่บ้านเป็นหินลาด (หินขาว) มีอยู่ตามร่องน้ำใกล้ วัดศิลาอาสน์ ชาวบ้านจึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “ บ้านหินลาด ” บนพื้นที่ประมาณ ๑,๐๐๐ ไร่เศษ ต่อมาประมาณปีพุทธศักราช ๒๔๘๕ ทางราชการได้ประกาศตั้งหมู่บ้านขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งเดิมเรียกว่า บ้านหินลาด หมู่ที่ ๙ ขึ้นอยู่ในการปกครองของตำบลปะโค อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี และเมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๕๑๘ บ้านหินลาด ได้แยกออกจากการปกครองของตำบลปะโค ตามลักษณะของการปกครองของทางราชการ มาขึ้นอยู่ในการปกครองของตำบลโคกกลาง บ้านแสงแก้ว หมู่ที่ ๑๐ เดิมเรียกชื่อว่า “ บ้านหนองแสง ” ต่อเมื่อเมื่อบ้านหนองแสงมีประชากรเพิ่มมากขึ้น ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ ทางราชการจึงได้แบ่งเขตการปกครองออกจากบ้านหนองแสง มาตั้งชื่อหมู่บ้านใหม่ตามลักษณะของการปกครอง และตั้งชื่อใหม่ว่า “ บ้านแสงแก้ว ”